เหตุผลการขึ้น "ภาษีบุหรี่" ที่ฟังแล้วรู้สึกว่าแมร้งตลก.. (ย้อนแย้งฉิบ..)

เมื่อวาน (10 กุมพาพันธ์ 2559) ตื่นมาตอนเช้าและยังรู้สึกว่าแมร้งไม่หายหนาวซะที เล่นซะจนเลือดกำเดาออกนิดๆ เนื่องจากอากาศมันแห้ง หายใจทางจมูกก็แสบจมูกจึงทำให้เลือดกำเดาออกมานิดๆ และแห้งกังเป็นขี้มูกสีแดง (ฟังดูทุเรศไปหน่อย..แต่ก็จริง) แล้วก็เสด็จลงจากห้องนอนเพื่อไปหาของกินตอนเช้า จิบกาแฟไปกระป๋องแล้วก็เปิดหนังสือพิมพ์อ่าน ด้วยความสนใจว่าข่าววันนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง..

ภาษีบุหรี่

ทันทีที่ได้อ่าน นสพ. ก็ได้เห็นพาดหัวข่าวที่น่าสนใจ ซึ่งเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของตัวเอง "ขึ้นภาษีบุหรี่" คงไม่ต้องอธิบายว่าทำไมผมถึงสนใจ ฮ่าๆๆ และได้ตระหนักว่า "ตรูคงเสียเงินเพิ่มอีกแล้ว" พอจิบกาแฟไปได้ซักพักเปิดโทรทัศน์ดูช่อง Thai PBS ก็ได้เห็นรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องการขึ้นภาษีและราคาบุหรี่ ซึ่งก็ได้ใจความสำคัญมา 2 เรื่องที่ฟังแล้วรู้สึกว่าแมร้งตลกและย้อนแย้งดีฉิบหาย
  1. ขึ้นภาษีบุหรี่เพื่อทำให้เหล่าสิงห์อมควันสูบให้น้อยลงและป้องกันไม่ให้เกิดผู้สูบหน้าใหม่
  2. รัฐจะสามารถเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นจากเดิม (คาดว่าจะเก็บได้ 7 หมื่นล้าน ถ้าฟังไม่ผิด)

"ย้อนแย้งและตลกฉิบหาย"


ถ้าฟังแล้วไม่คิดก็คงจะเฉยๆ อะนะ แต่ถ้าลองคิดดูจะเห็นว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้ก็เพื่อให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้มากกว่าเดิมเท่านั้น ไม่ได้มีความจริงใจในการป้องกันและลดปริมาณการสูบบุหรี่แต่อย่างใด กล่าวคือ ถ้าแมร้งต้องการป้องกันผู้สูบหน้าใหม่และลดปริมาณการสูบบุหรี่จริงๆ มันจะพูดเรื่องการจัดเก็บภาษีไปเพื่ออะไร ? เพราะการพูดไปก็จะแสดงให้เห็นว่า "จริงๆ แล้วรัฐต้องการเพิ่มรายได้จากภาษี" มากกว่าความต้องการที่ป้องกันผู้สูบหน้าใหม่และลดปริมาณการสูบบุหรี่ของผู้สูบรายเดิม

แนวทางการป้องกันที่เข้าท่ากว่า

ตามความเห็นส่วนตัวแล้ว การทำงานของ สสส. นั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะเห็นผลมากกว่าการขึ้นภาษีมากกว่า กล่าวคือ การทำให้คนได้ตระหนักถึงเหตุผลที่ไม่ควรสูบบุหรี่นั้น เป็นแนวทางของ "การป้องกันที่ยั่งยืน" ที่เข้าท่าที่สุดแล้ว การขึ้นภาษีบุหรี่แล้วบอกว่าจะทำให้ลดปริมาณการสูบของผู้สูบหน้าเดิมนั้น บอกเลยว่า "ไม่เข้าท่า" เพราะอะไรนะเหรอ ผู้สูบบุหรี่ด้วยกันคงเข้าใจดีว่าเพราะอะไร

ส่วนการป้องกันผู้สูบหน้าใหม่ก็คงจะบอกได้ว่า "ก็คงไม่เข้าท่า" อย่าลืมว่าบุหรี่นะ มันมีการแบ่งขายกันด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นช่องทางที่ทำให้ผู้สูบหน้าใหม่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายเช่นกัน กล่าวคือ ซื้อเป็นซองมันแพงก็ซื้อแบบแบ่งขายก็ได้ ดังนั้นการแก้ปัญหาโดยการขึ้นภาษีจึงเป็นเหตุผลที่หลอกลวงมากกว่าที่จะเป็นเหตุผลที่สมเหตุสมผล เฮ้อ.. เขียนระบายซะเหนื่อยเลย ฮ่าๆๆ

ใครที่ได้บังเอิญมาอ่านเรื่องนี้แล้วไม่เห็นด้วย ก็ไม่ต้องประชดประชันกันนะครับ เราประชาชนคนทั่วไปไม่ควรมานั่งทะเลาะกัน เหนื่อยและเครียดเปล่าๆ ถ้าอยากจะทะเลาะต้องทะเลาะกับพวกรัฐบาล มันถึงจะสนุก มานั่งทะเลาะกันเองก็ไม่ได้เกิดอะไรที่ดีขึ้นมาหรอกครับ ^_^
Korlidun

ชีวิต ก็เปรียบเสมือนการเดินทาง สิ่งที่น่าดีใจคือไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ สิ่งที่น่าเสียคือย้อนกลับไปไม่ได้ youtube facebook twitter instagram rss

Post a Comment

Previous Post Next Post